Hada labo
ถ้าใครติดตามบล็อก Acnedefend มาโดยตลอดก็จะรู้ว่าผมเป็นแฟนพันธุ์แท้ของเจ้าฮาดะลาโบะขวดสีขาวขนาดไหน จัดเป็นมอยเจอไรเซอร์ที่ผมโปรดปรานมากที่สุดเพราะมันเหมาะกับสภาพผิวหน้าของผมเอามากๆ ซึ่งผมเคยพูดถึงความประทับใจต่อฮาดะลาโบะขวดขาวนี้กับเรื่องสิวไว้ในบทความก่อนหน้านี้แล้ว ใครที่สนใจอ่านสามารถอ่านได้ที่นี่ครับ เรื่องสิวๆกับฮาดะลาโบะ(Hada labo)ขวดขาว มันช่วยลดสิวได้จริงๆนะ
แต่ถ้าจะพูดถึงแต่ฮาดะลาโบะขวดขาวอย่างเดียวก็ดูจะไม่ค่อยยุติธรรมต่อฮาดะลาโบะสีอื่นๆสักเท่าไร เพราะมันเหมือนกับว่าตกลงฮาดะลาโบะสีขาวดีตัวเดียวใช่มั๊ย แล้วสีแดง หรือสีน้ำเงินมันไม่ดีตรงไหน แล้วฮาดะลาโบะทั้ง 3 สีมันต่างกันยังไง ตกลงใช้ฮาดะลาโบะสีไหนเหมาะกับคนเป็นสิวที่สุด วันนี้จะได้รู้กันแต่มาจากมุมมองที่ Acnedefend มองเท่านั้นนะครับ ลองอ่านกันดูเผื่อจะชอบกัน
เปรียบเทียบฮาดะลาโบะ(Hada labo) สีขาว สีน้ำเงิน และสีแดง
- Hada labo Super Hyaluronic Acid Moisturizing Lotion(ขวดสีขาว)
- Hada labo Arbutin Whitening Lotion(ขวดสีน้ำเงิน)
- Hada labo Retinol Lifting + Firming Lotion(ขวดสีแดง)
เปรียเทียบสารบำรุงผิว
หากให้เปรียบเทียบสารบำรุงผิวของมอยเจอไรเซอร์จากค่ายฮาดะลาโบะทั้ง 3 ตัว 3 สีนั้น ก็คงจะเปรียบเทีบกันไม่ได้ เพราะฮาดะลาโบะแต่ละสีก็จะใส่สารบำรุงผิวที่แตกต่างกันออกไป เอาเป็นว่าขอพูดถึงสารตัวที่เด่นๆในฮาดะลาโบะแต่ละสีก็แล้วกัน
ฮาดะลาโบะสีขาว
สารโดดเด่น : Hyaluronic acid 3 ชนิด จัดเต็มเรื่องให้ความชุ่มชื้นกับผิวโดยตรง เด่นเรื่องนี้ที่สุด เรื่องอื่นไม่เด่นเลย เพราะไม่มีสารอะไรมากมาย กะว่าดีเรื่องชุ่มชื้นอย่างเดียวเลย
ฮาดะลาโบะสีน้ำเงิน
สารโดดเด่น : Arbutin และวิตามินซี ช่วยในเรื่องเพิ่มความขาวให้กับผิวหน้า ช่วยให้ผิวที่หมองคล้ำดูสดใสมากขึ้น ส่วน Hyaluronic acid ก็ถูกใส่เข้ามาด้วย แต่ไม่ได้จัดเต็มเหมือนกับฮาดะลาโบะขวดขาว
ฮาดะลาโบะสีแดง
สารโดดเด่น : Retinol Vitamin A , Collagen และ Super Hyaluronic Acid ช่วยในเรื่องลดริ้วรอย ยกกระชับผิวให้ผิวดูเต่งตึงขึ้น ช่วยลดริ้วรอยจากสิว และริ้วรอยจากวัยได้ดี ช่วยทำให้ผิวมีสุขภาพดีและแข็งแรงขึ้น
เปรียบเทียบเนื้อครีม และการซึมเข้าสู่ผิว
- ฮาดะลาโบะสีขาว เนื้อครีมขาวใส มีความหนืดเล็กน้อย
- ฮาดะลาโบะสีน้ำเงิน เนื้อครีมข้าวข้น ดูมีความหนืดมากกว่าสีขาว
- ฮาดะลาโบะสีแดง เนื้อครีมขาวออกเหลือง ข้น ดูมีความหนืดมากที่สุด
เปรียบเทียบการซึมเข้าสู่ผิว
ฮาดะลาโบะสีแดงถึงมองด้วยตาอาจจะรู้สึกว่าเนื้อครีมหนักกว่าตัวอื่นๆ แต่พอได้ทาเข้าผิวมันกลับซึมไวมากกว่าตัวสีน้ำเงิน และสีขาวอย่างรู้สึกได้ ฮาดะลาโบะตัวสีน้ำเงินก็จะซึมเข้าสู่ผิวได้ดีรองลงมา ส่วนฮาดะลาโบะตัวสีขาวซึมเข้าสู่ผิวได้ช้าที่สุด และหลังจากทาไปสักพักแล้วยังรู้สึกหน้าเหนอะหนะกว่าฮาดะลาโบะสีอื่นๆด้วย ถ้าเขียนให้ดูง่ายๆจากความสามารถในการซึมเข้าสู่ผิวได้ดีก็จะประมาณนี้
ฮาดะลาโบะสีแดง > ฮาดะลาโบะสีน้ำเงิน > ฮาดะลาโบะสีขาว
เปรียบเทียบเรื่องสภาพผิว
ถ้าให้พูดถึงว่าผิวแบบไหนเหมาะกับฮาดะลาโบะสีไหนนี่ไม่ยากครับ เพราะทางผู้ผลิตเองก็บอกมาอย่างชัดเจนว่าคนผิวแบบไหนเหมาะกับตัวไหนดังนี้ครับ
ฮาดะลาโบะสีขาว
เหมาะกับคนที่ผิวแห้ง ผิวขาดความชุ่มชื้นมากๆ หน้าเป็นขรุยง่าย และที่สำคัญเหมาะกับคนที่ผิวแพ้ง่าย ในบรรดาฮาดะลาโบะทั้ง 3 สี ฮาดะลาโบะสีขาวจัดว่าให้ความชุ่มชื้นดีและอ่อนโยนที่สุดครับ
ฮาดะลาโบะสีน้ำเงิน
เหมาะกับคนผิวผสม หรือผิวมัน และเหมาะกับคนที่ต้องการให้หน้าดูขาวใสขึ้นอีกด้วย เพราะเจ้าฮาดะลาโบะสีน้ำเงินใส่สาร Arbutin เพิ่มเข้ามาเพื่อช่วยในเรื่องหน้าขาวโดยตรง แต่ถ้าพูดกันตามตรง จำนวน Arbutin ที่อยู่ในฮาดะลาโบะสีน้ำเงินขวดนี้ยังน้อยเกินไป หากเทียบกับครีม Whitening โดยเฉพาะคงไม่ได้ เพราะฉะนั้นหากคาดหวังว่าใช้แล้วจะช่วยให้หน้าขาววิ๊ง ขาวแบบเปร่งประกาย ก็อาจจะผิดหวังได้ แต่ถ้าคิดว่าทาแล้วหน้าชุ่มชื้นดี ซึมเร็ว ไม่ทำให้หน้ามันเพิ่ม หน้าดูขาวขึ้นนิดๆ อันนี้พอคุยกันได้
ฮาดะลาโบะสีแดง
เหมาะกับคนที่มีริ้วรอย รอยสิว จุดด่างดำ(แบบบางๆนะ) เพราะฮาดะลาโบะสีแดงจะเน้นไปในเรื่องนี้โดยตรง นอกจจากจะช่วยให้หน้าชุ่มชื้นอย่างที่มอยเจอไรเซอร์แบบทั่วไปทำกันแล้ว ยังใส่สารที่ช่วยให้ริ้วรอยดูจางลง หรือช่วยป้องกันริ้วรอยที่จะเกิดขึ้นในอนาคต คือทำให้มันเกิดน้อยลง หรือช้าลง เพราะยังไงเรื่องเหี่ยวย่น ริ้วรอยนี่มันห้ามกันไม่ได้จริงๆ ซึ่งถ้าฟังจากคนขายบอก เขาจะบอกว่าเหมาะกับคนช่วงอายุตั้งแต่ 30-50 ปี แต่ผมว่าใช้มันตั้งแต่อายุยังน้อยนี่แหละดี ป้องกันไว้แต่เนิ่นๆ หน้าจะได้ไม่ค่อยมีริ้วรอยตอนอายุมากๆ นี่ผมยังเสียดายอยู่เลยที่ตอนวัยรุ่นไม่ได้ใช้ แต่ก็ไม่เป็นไรใช้ตอนนี้ก็ยังไม่สายเนอะ
เปรียบเทียบราคา
ผมว่าเรื่องราคาคงจะไม่เป็นประเด็นต่อการเลือกใช้สักเท่าไร เพราะราคาของฮาดะลาโบะทั้ง 3 สีนี้ถือว่าไม่ห่างกันมาก
- Hada labo Super Hyaluronic Acid Moisturizing Lotion(ขวดสีขาว) ขนาด 170 ml ราคา 460 บาท
- Hada labo Arbutin Whitening Lotion(ขวดสีน้ำเงิน) ขนาด 170 ml ราคา 520 บาท
- Hada labo Retinol Lifting + Firming Lotion(ขวดสีแดง) ขนาด 170 ml ราคา 620 บาท
ปล. ราคานี้เป็นราคาโดยประมาณนะครับ เพราะราคาจะแตกต่างกันไปตามร้านที่เราซื้อ
ฮาดะลาโบะสีไหนเหมาะกับคนเป็นสิวมากที่สุด
จริงๆแล้วถ้าจะให้บอกว่าฮาดะลาโบะสีขาว สีน้ำเงิน หรือว่าสีแดง เหมาะกับคนเป็นสิวที่สุด ผมว่าเป็นเรื่องยากพอตัว เพราะสภาพผิวของคนเป็นสิวแต่ละคนไม่เหมือนกัน แล้วแต่ละคนเป็นสิวแบบไหนบ้างก็ไม่รู้อีก ดังนั้นผมขอสรุปในมุมที่ว่ากันด้วยคุณสมบัติของสารที่อยู่ในฮาดะลาโบะแต่ละสีเลยแล้วกัน จะได้เกิดความยุติธรรมมากที่สุด
ถ้าคุณเป็นสิว ผิวแห้ง หรือมันแต่ไม่ชุ่มชื้น และผิวแพ้ง่าย แนะนำฮาดะลาโบะขวดสีขาวครับ
ถ้าคุณผิวผสม มัน ไม่แพ้ง่าย และอยากขาวด้วย แนะนำฮาดะลาโบะขวดสีน้ำเงินครับ
ถ้าคุณเป็นสิว มีริ้วรอยจากสิว หรือมีริ้วรอยจากอายุที่เพิ่มขึ้น ต้องการให้ผิวหน้ากระชับขึ้น แนะนำฮาดะลาโบะขวดสีแดงครับ
แต่ถ้าให้ผมแสดงความคิดเห็นแบบส่วนตัวว่าสีไหนเหมาะกับคนเป็นสิวมากที่สุด ผมแอบเชียร์ฮาดะลาโบะขวดสีแดงอยู่ครับ เหตุผลก็คือ หนึ่งมันช่วยเรื่องความชุ่มชื้นของผิวได้ดีอยู่แล้ว เพราะมันก็ผสม Super Hyaluronic Acid มาเหมือนกัน ดังนั้นเบื้องต้นมันตอบโจทย์เรื่องความชุ่มชื้นที่ต้องการได้แล้ว สองคือคนเป็นสิวส่วนใหญ่ก็มักจะมีร่องรอยอารยธรรมที่เกิดจากการกดสิว บีบสิว ต่างๆนานามา ซึ่งฮาดะลาโบะขวดสีแดงมันสามารถช่วยลดริ้วรอยจากสิวได้ด้วยในระดับหนึ่ง ผมก็เลยคิดว่าคนเป็นสิวน่าจะเหมาะกับเจ้าฮาดะลาโบะสีแดงขวดนี้ ที่เหลือต้องไปลุ้นกันเอาเองว่าจะแพ้หรือไม่แพ้
เอาล่ะครับการเปรียบเทียบฮาดะลาโบะสีขาว สีน้ำเงิน และสีแดง คงจะสิ้นสุดกันตรงนี้แล้ว หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับคนที่กำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะเลือกใช้ฮาดะลาโบะสีไหนดี หรือใครที่กำลังลังเลอยู่ว่าจะลองใช้ฮาดะลาโบะดีหรือไม่ บทความนี้น่าจะพอช่วยตอบคำถามได้บ้างนะครับ ส่วนเรื่องการแพ้นั้นผมคิดว่ามีสิทธิ์แพ้กันได้ทุกสีครับ ครีมในโลกนี้ทั้งหมดก็คงไม่แตกต่างกัน มีทั้งคนใช้ดีและใช้แล้วแพ้ด้วยกันทั้งนั้น ดีที่สุดก็คงไม่พ้นต้องลองใช้ด้วยตัวเอง เดือดร้อนก็ตัวเราเอง สิวหายก็ตัวเราเอง จริงมั๊ยครับ ^^
ข้อมูลโดย http://acnedefend.blogspot.com/2013/12/hada-labo-3-white-blue-red.html
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น